คำถาม คำตอบ และคำอธิบายสำหรับการรับรองการค้นหา Google Ads - Thai
คำถาม คำตอบ และคำอธิบายสำหรับการรับรองการค้นหา Google Ads - Thai
Questions:
ข้อใดคือแนวทางปฏิบัติแนะนำ 3 ข้อที่คุณสามารถทำตามเพื่อขยายการเข้าถึงด้วยการทำงานแบบกว้าง
- เพิ่มคีย์เวิร์ดที่ทำงานแบบกว้างสำหรับคีย์เวิร์ดที่ทำงานแบบตรงทั้งหมดในแคมเปญ
- ใช้โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทและครีเอทีฟโฆษณาที่ทำงานด้วยระบบ AI
- เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงของแคมเปญโดยใช้การทำงานแบบกว้างควบคู่ไปกับการเสนอราคาด้วยตนเอง
- ใช้ข้อจำกัดของแบรนด์กับการทำงานแบบกว้างสำหรับแคมเปญที่มีคีย์เวิร์ดแบรนด์
- จัดระเบียบกลุ่มโฆษณาทั้งหมดให้สอดคล้องกับธีมที่คล้ายกัน
คำอธิบาย: คำตอบที่ถูกต้องคือ ใช้โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทและครีเอทีฟโฆษณาที่ทำงานด้วยระบบ AI, ใช้ข้อจำกัดของแบรนด์กับการทำงานแบบกว้างสำหรับแคมเปญที่มีคีย์เวิร์ดแบรนด์, และ จัดระเบียบกลุ่มโฆษณาทั้งหมดให้สอดคล้องกับธีมที่คล้ายกัน เนื่องจากการใช้โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทและครีเอทีฟโฆษณาที่ใช้ระบบ AI ช่วยให้สามารถแสดงโฆษณาที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละรายและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ การใช้ข้อจำกัดของแบรนด์ในการทำงานแบบกว้างจะช่วยให้โฆษณามีความเฉพาะเจาะจงและไม่เกินขอบเขตที่แบรนด์ต้องการ นอกจากนี้ การจัดระเบียบกลุ่มโฆษณาให้สอดคล้องกับธีมที่คล้ายกันจะทำให้การจัดการแคมเปญมีประสิทธิภาพและง่ายต่อการติดตามผล ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยขยายการเข้าถึงได้ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในแคมเปญที่ทำงานแบบกว้าง
ชิ้นงานช่วยมอบ 2 สิ่งที่ผู้ใช้ต้องการจากคำค้นหา ซึ่งได้แก่อะไรบ้าง
- การเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์และบริการ
- ข้อมูลที่อิงตามช่วงเวลาที่ผู้ใช้ต้องการ
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
- รูปภาพที่น่าสนใจ
คำอธิบาย: คำตอบที่ถูกต้องคือ ข้อมูลที่อิงตามช่วงเวลาที่ผู้ใช้ต้องการ และ ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากผู้ใช้ที่ค้นหาข้อมูลผ่านคำค้นหามักต้องการข้อมูลที่ตรงกับความต้องการในเวลานั้นๆ การให้ข้อมูลที่อิงตามช่วงเวลาที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือข้อมูลที่เป็นปัจจุบันจะช่วยให้ตอบสนองต่อความต้องการได้ดีขึ้น ข้อมูลที่เกี่ยวข้องยังช่วยเพิ่มความเหมาะสมในการค้นหาของผู้ใช้ โดยการนำเสนอข้อมูลที่เชื่อมโยงและตรงกับคำค้นหาจะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์และตรงกับสิ่งที่กำลังมองหา ทั้งสองปัจจัยนี้ทำให้ประสบการณ์ของผู้ใช้ดีขึ้นและเพิ่มโอกาสในการแปลงหรือทำธุรกรรม
แคมเปญที่ไม่มีคีย์เวิร์ด 2 ประเภทใดในปัจจุบันนี้ที่นักการตลาดจะใช้เพื่อช่วยกระตุ้นการเพิ่มขึ้นของการเข้าถึงได้
- Performance Max
- โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท
- โฆษณาแบบข้อความที่ขยายออก
- โฆษณา Search แบบไดนามิก
คำอธิบาย: คำตอบที่ถูกต้องคือ Performance Max และ โฆษณา Search แบบไดนามิก เนื่องจากแคมเปญ Performance Max เป็นแคมเปญประเภทใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI และแมชชีนเลิร์นนิงเพื่อช่วยในการเพิ่มการเข้าถึงโดยไม่ต้องพึ่งพาคีย์เวิร์ด โดยการใช้ข้อมูลจากหลายช่องทาง เช่น Google Search, YouTube, Gmail และ Display Network เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้นในขณะที่โฆษณา Search แบบไดนามิก (Dynamic Search Ads) ก็ช่วยในการขยายการเข้าถึงโดยการสร้างโฆษณาอัตโนมัติตามเนื้อหาของเว็บไซต์โดยไม่จำเป็นต้องตั้งคีย์เวิร์ดแยกต่างหาก ซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงและความแม่นยำในการแสดงโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้
ธุรกิจการพัฒนาเว็บแห่งหนึ่งใช้การวิเคราะห์ข้อมูลการตลาดของตนและระบุได้ว่าลูกค้าที่มีมูลค่าสูงสุดนั้นติดต่อมาทางแบบฟอร์มแสดงความสนใจบนเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทต้องการให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าส่งแบบฟอร์มนี้เข้ามามากขึ้นอีก วัตถุประสงค์ของแคมเปญที่เหมาะสมสำหรับเป้าหมายของธุรกิจนี้คืออะไร
- การเข้าชมเว็บไซต์
- การรับรู้ถึงแบรนด์และการเข้าถึง
- การพิจารณาผลิตภัณฑ์และแบรนด์
- โอกาสในการขาย
คำอธิบาย: คำตอบที่ถูกต้องคือ โอกาสในการขาย เนื่องจากธุรกิจต้องการเพิ่มจำนวนลูกค้าที่ส่งแบบฟอร์มแสดงความสนใจเข้ามามากขึ้น ซึ่งหมายถึงการมุ่งเน้นไปที่การสร้างโอกาสในการขาย (Sales Opportunities) หรือการทำให้ผู้ที่มีความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทมีการติดต่อหรือลงมือกระทำการที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะกลายเป็นลูกค้าในอนาคต การเน้นแคมเปญที่โฟกัสไปที่การสร้างโอกาสในการขายจะช่วยให้บริษัทได้ลูกค้าที่มีมูลค่าสูงสุด ซึ่งคาดว่าจะเป็นลูกค้าเป้าหมายที่สามารถสร้างรายได้ให้กับธุรกิจในระยะยาว
วิธีหนึ่งที่ AI ของ Google จะช่วยให้นักการตลาดเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้คืออะไร
- AI ของ Google จะกำหนดเป้าหมายทางธุรกิจสำหรับนักการตลาดโดยพิจารณาจากข้อมูล Conversion ออฟไลน์
- AI ของ Google เข้าใจความแตกต่างของภาษามนุษย์ และจะเชื่อมโยงนักการตลาดให้เข้าถึงผู้คนที่ค้นหาสิ่งที่นักการตลาดนำเสนอ
- Smart Bidding จะใช้ AI ของ Google เพื่อคาดการณ์มูลค่าของคำค้นหาแต่ละรายการสำหรับไตรมาสที่กำลังจะมาถึง จึงช่วยให้นักการตลาดวางแผนค่าใช้จ่ายได้
- โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทจะใช้ AI ของ Google เพื่อให้คำแนะนำในการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของนักการตลาด
คำอธิบาย: คำตอบที่ถูกต้องคือ AI ของ Google เข้าใจความแตกต่างของภาษามนุษย์ และจะเชื่อมโยงนักการตลาดให้เข้าถึงผู้คนที่ค้นหาสิ่งที่นักการตลาดนำเสนอ เนื่องจาก AI ของ Google ถูกพัฒนาให้สามารถเข้าใจและแยกแยะความแตกต่างของภาษามนุษย์ รวมถึงสามารถตีความคำค้นหาของผู้ใช้งานที่มีความหลากหลาย ทั้งในแง่ของคำศัพท์หรือความหมาย เพื่อช่วยให้สามารถจับคู่โฆษณาหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหานั้นๆ ได้อย่างแม่นยำและตรงจุด ทำให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังค้นหาสิ่งที่พวกเขานำเสนอ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดออนไลน์
ผู้อำนวยการฝ่ายการโฆษณาของบริษัทผู้ผลิตกีตาร์ได้รับมอบหมายให้เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญใน Google Search ของบริษัท ผู้อำนวยการรายนี้จะใช้คะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพให้เป็นประโยชน์ต่อแคมเปญได้อย่างไร
- ใช้เปรียบเทียบประสิทธิภาพของครีเอทีฟโฆษณาแบบข้อความกับโฆษณาประเภทอื่น ซึ่งจะช่วยให้พบโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพ
- ใช้ทำความเข้าใจประสิทธิภาพของเครือข่ายเว็บไซต์ ซึ่งจะช่วยให้พบโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพ
- ใช้ประเมินความนิยมของเว็บไซต์เมื่อเทียบกับเว็บไซต์อื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทได้ดีขึ้น
- ใช้เพื่อดูว่าแคมเปญได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพไปมากน้อยเพียงใดแล้วเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพสูงสุด
วิธีที่มีประสิทธิภาพ 3 วิธีที่นักการตลาดจะใช้คำแนะนำที่ส่งผลต่อคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพได้มีอะไรบ้าง
- ตรวจสอบคำแนะนำและปรับเปลี่ยนในส่วนการตั้งค่าแคมเปญ
- ใช้ “ใช้ทั้งหมด” เพื่อปรับใช้ทุกๆ คำแนะนำในคลิกเดียว
- ตรวจสอบและใช้คำแนะนำแต่ละรายการในรายงานคีย์เวิร์ด
- ตรวจสอบและใช้คำแนะนำแต่ละรายการในแต่ละหมวดหมู่
- เลือกใช้คำแนะนำบางรายการโดยอัตโนมัติ
นักการตลาดจะคาดการณ์ผลของการใช้คำแนะนำที่มีต่อคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างไร
- ใช้ AI ของ Google เพื่อคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของ Conversion ที่ได้จากคำแนะนำ
- ตรวจสอบเพื่อเปรียบเทียบการตั้งค่าของแคมเปญที่คล้ายกันซึ่งมีคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพสูงกว่า
- ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือของบุคคลที่สามที่เชื่อถือได้ในการวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ
- คำแนะนำแต่ละรายการจะแสดงผลที่มีต่อคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพเป็นเปอร์เซ็นต์
ประโยชน์ 2 ข้อของการใช้การทำงานแบบกว้าง, Smart Bidding และโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทร่วมกันมีอะไรบ้าง
- ช่วยประหยัดเวลา จึงทำให้นักการตลาดมีเวลาไปทำงานที่มีลำดับความสำคัญสูงสุดได้
- ช่วยสร้างบรรทัดแรกตามเว็บไซต์ของผู้ลงโฆษณาโดยอัตโนมัติ
- ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาเข้าถึงผู้ใช้ที่เหมาะสมในราคาที่เหมาะสมด้วยโฆษณาที่เกี่ยวข้อง
- ตัดความจำเป็นที่นักการตลาดจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ Search
การค้นหาในข้อใดที่โฆษณาจะแสดงสำหรับคีย์เวิร์ด “การซ่อมกระจกรถ” ที่ทำงานแบบกว้าง
- เปลี่ยนกระจกรถ
- การเปลี่ยนกระจกรถยนต์
- ประกาศขายรถมือสอง
- ประกาศขายรถ
ในฐานะผู้ลงโฆษณา คุณสร้างโฆษณา Search ชิ้นแรกใน Google Ads ได้ง่ายๆ ใน 5 ขั้นตอน ลำดับที่ถูกต้องของ 5 ขั้นตอนนี้คืออะไร
- ตรวจสอบการตั้งค่าแคมเปญ แล้วดูให้แน่ใจว่าโฆษณาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านบรรณาธิการของ Google ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads ที่ต้องการสร้างโฆษณา Search เลือกปุ่ม + ในเมนูหน้าเว็บทางซ้ายของหน้าจอ เลือกวัตถุประสงค์ เลือก “โฆษณา Search” จากตัวเลือกที่มี แล้วป้อนรายละเอียดแคมเปญ เลือก “เผยแพร่แคมเปญ”
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads ที่ต้องการสร้างโฆษณา Search เลือกวัตถุประสงค์ เลือก “โฆษณา Search” จากตัวเลือกที่มี แล้วป้อนรายละเอียดแคมเปญ เลือกปุ่ม + ในเมนูหน้าเว็บทางซ้ายของหน้าจอ เลือก “เผยแพร่แคมเปญ” ตรวจสอบการตั้งค่าแคมเปญ แล้วดูให้แน่ใจว่าโฆษณาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านบรรณาธิการของ Google
- ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads ที่ต้องการสร้างโฆษณา Search เลือกปุ่ม + ในเมนูหน้าเว็บทางซ้ายของหน้าจอ เลือกวัตถุประสงค์ เลือก “โฆษณา Search” จากตัวเลือกที่มี แล้วป้อนรายละเอียดแคมเปญ ตรวจสอบการตั้งค่าแคมเปญ แล้วดูให้แน่ใจว่าโฆษณาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านบรรณาธิการของ Google เลือก “เผยแพร่แคมเปญ”
- เลือกปุ่ม + ในเมนูหน้าเว็บทางซ้ายของหน้าจอ ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads ที่ต้องการสร้างโฆษณา Search เลือกวัตถุประสงค์ เลือก “โฆษณา Search” จากตัวเลือกที่มี แล้วป้อนรายละเอียดแคมเปญ เลือก “เผยแพร่แคมเปญ” ตรวจสอบการตั้งค่าแคมเปญ แล้วดูให้แน่ใจว่าโฆษณาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านบรรณาธิการของ Google
- เลือกวัตถุประสงค์ เลือก “โฆษณา Search” จากตัวเลือกที่มี แล้วป้อนรายละเอียดแคมเปญ เลือกปุ่ม + ในเมนูหน้าเว็บทางซ้ายของหน้าจอ เลือก “เผยแพร่แคมเปญ” ลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google Ads ที่ต้องการสร้างโฆษณา Search ตรวจสอบการตั้งค่าแคมเปญ แล้วดูให้แน่ใจว่าโฆษณาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ด้านบรรณาธิการของ Google
คะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพจะช่วยให้นักการตลาดประสบความสำเร็จได้ด้วย 2 วิธีใดบ้าง
- บันทึกงบประมาณของแคมเปญสำหรับทีมการตลาด
- เพิ่มความเร็วในการนำไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญ
- กำหนดว่าแคมเปญใดที่ควรให้ความสำคัญเพื่อการปรับปรุง
- ใช้ AI ของ Google เพื่อวางแผนแคมเปญโดยไม่จำเป็นต้องป้อนข้อมูล
กลยุทธ์ Smart Bidding ตามมูลค่ามี 2 ประเภท ได้แก่อะไรบ้าง
- ส่วนแบ่งการแสดงผลเป้าหมาย
- เพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุดด้วย ROAS เป้าหมาย
- เพิ่มมูลค่า Conversion สูงสุด
- การเสนอราคา CPC ด้วยตนเอง
เมื่อไม่นานมานี้ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าแห่งหนึ่งเลือกโอกาสในการขายเป็นเป้าหมายทางการตลาดของแคมเปญใน Google Search บริษัทจะได้ผลลัพธ์อย่างไรจากการเลือกโอกาสในการขายเป็นเป้าหมาย
- มีคนเข้าชมเว็บไซต์ของบริษัทเพิ่มขึ้น
- มีการโปรโมตวิดีโอเกี่ยวกับพันธกิจของธุรกิจ
- มีรายชื่ออีเมลที่ลงชื่อสมัครรับข้อมูลจากผู้มีโอกาสเป็นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
- มีการกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
AI ของ Google จะใช้การค้นหาใน Google หลายพันล้านครั้งในทุกๆ วันเพื่อช่วยนักการตลาดเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา Search ให้สูงสุดได้อย่างไร
- Smart Bidding จะใช้ AI ของ Google เพื่อคาดการณ์คำค้นหาที่มีปริมาณสูงสุดเพื่อกำหนดราคาเสนอโดยอัตโนมัติ
- นักการตลาดไม่จำเป็นต้องลงทุนในชิ้นงานรูปภาพคุณภาพสูงอีกต่อไปเมื่อใช้ AI ของ Google
- ลำดับโฆษณาจะให้ความสำคัญกับอัตราการคลิกผ่านที่คาดหวังมากกว่าความเกี่ยวข้องของโฆษณาหรือในทางกลับกันโดยใช้ AI ของ Google
- การทำงานแบบกว้างและ Smart Bidding จะใช้ AI ของ Google ในการจับคู่โฆษณากับคำค้นหา และปรับราคาเสนอในแบบเรียลไทม์
คุณกำลังพิจารณาที่จะใช้การเสนอราคาอัตโนมัติเพื่อทำให้กระบวนการจัดการแคมเปญมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเสนอราคาอัตโนมัติจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพได้ 3 วิธี ได้แก่วิธีใดบ้าง
- ตั้งค่าการเสนอราคาด้วยตนเองสำหรับช่วงเวลาที่เจาะจงของวัน
- ผสานสัญญาณที่หลากหลายเพื่อประเมินความตั้งใจของผู้ใช้
- ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรทางการตลาด
- กำหนดราคาเสนอที่เหมาะสมสำหรับการประมูลแต่ละครั้ง
- จะมีการกำหนดมูลค่าราคาเสนอต่ำสุดและสูงสุดตามงบประมาณรายวัน
คุณจัดการการตลาดให้กับธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัด และจำเป็นต้องเพิ่มจำนวน Conversion ให้ได้มากที่สุด Google Ads จะช่วยได้ใน 2 กรณีใด
- Google สามารถช่วยคุณกำหนดงบประมาณรายวันคงที่ให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการตลาดของคุณและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุด
- Google สามารถปรับงบประมาณรายวันโดยอัตโนมัติด้วย AI เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านประสิทธิภาพของคุณ
- Google มีกลยุทธ์ Smart Bidding เพื่อคุณเพิ่มจำนวน Conversion สูงสุดในงบประมาณเฉลี่ยรายวันที่ตั้งไว้
- เครื่องมือการวางแผน การตั้งค่าแคมเปญ และการเพิ่มประสิทธิภาพของ Google สามารถช่วยกำหนดงบประมาณเฉลี่ยรายวันสำหรับเป้าหมายของคุณ
เบญจาพยายามเพิ่มคะแนนคุณภาพของโฆษณา Google Search เพื่อให้มีโอกาสได้ลำดับโฆษณาสูงขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการประมูลเพื่อแสดงโฆษณา สิ่งที่เบญจาอาจปรับเปลี่ยนเพื่อปรับปรุงลำดับโฆษณาคืออะไร
- ใส่รูปภาพเพื่อให้โฆษณาน่าสนใจยิ่งขึ้น
- เพิ่มสีสันลงในข้อความเพื่อเพิ่มคะแนนคุณภาพ
- ทำให้บรรทัดแรกเป็นตัวหนาเพื่อช่วยเพิ่ม eCTR
- เพิ่มข้อความเกี่ยวกับเทศกาลในช่วงเทศกาลวันหยุด
ชิ้นงาน 2 ประเภทที่ทำหน้าที่เป็นชิ้นงานอัตโนมัติระดับบัญชีได้ด้วยมีอะไรบ้าง
- ข้อความไฮไลต์แบบไดนามิก
- ไซต์ลิงก์แบบไดนามิก
- ข้อความไฮไลต์โปรโมชัน
- ชิ้นงานการโทร
อะไรคือสิ่งที่กำหนดว่าโฆษณา Search จะแสดงในผลการค้นหาหรือไม่ รวมถึงตำแหน่งที่โฆษณานั้นปรากฏ
- ลำดับโฆษณา ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ในการแสดงโฆษณาที่มีประโยชน์
- ผลลัพธ์ของชิ้นงาน ซึ่งประกอบด้วยไซต์ลิงก์และชิ้นงานรูปภาพ
- ราคาเสนอ ซึ่งก็คือจำนวนเงินที่นักการตลาดจะจ่ายสำหรับการคลิก 1 ครั้ง
- คุณภาพโฆษณา ซึ่งพิจารณาจากความเกี่ยวข้องของโฆษณาและเว็บไซต์
ปัจจัย 3 ข้อใดที่มีผลต่อคุณภาพโฆษณาตามเวลาขณะประมูลของโฆษณา Search
- กลยุทธ์การเสนอราคา
- ลำดับโฆษณา
- ความเกี่ยวข้องของโฆษณา
- ประสบการณ์หน้า Landing Page ของโฆษณา
- อัตราการคลิกผ่านที่คาดหวัง
สัญญาณ 3 รายการที่การทำงานแบบกว้างใช้เพื่อจับคู่โฆษณา Search กับคำค้นหามีอะไรบ้าง
- ภูมิศาสตร์
- อุปกรณ์
- Smart Bidding
- ภาษา
- ความสนใจ
ประโยชน์ 3 ข้อของการเลือกใช้คำแนะนำโดยอัตโนมัติมีอะไรบ้าง
- เป็นการเลือกใช้ Smart Bidding โดยอัตโนมัติ
- เป็นการใช้โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทโดยอัตโนมัติ
- เป็นการใช้แนวทางปฏิบัติแนะนำในบัญชี Google Ads อย่างสม่ำเสมอ
- เลือกใช้ได้โดยไม่ต้องเพิ่มงบประมาณ
- จะได้เห็นประสิทธิภาพที่ดีขึ้นของแคมเปญ
เครื่องมือวางแผนประสิทธิภาพจะทำอะไรโดยอัตโนมัติ
- ใช้แมชชีนเลิร์นนิงเพื่อกำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มประชากรใหม่
- แนะนำโครงสร้างโฆษณาที่สมบูรณ์แบบสำหรับงบประมาณที่คุณมี
- กำหนดงบประมาณโฆษณาเพื่อให้เกิดการเติบโตสูงสุด
- คาดการณ์ประสิทธิภาพในอนาคตของแคมเปญที่ใช้อยู่
การเสนอราคาตามมูลค่ามีลักษณะการทำงานอย่างไร
- การเสนอราคาตามมูลค่าเป็นกลยุทธ์ Smart Bidding ที่ใช้แมชชีนเลิร์นนิงในการเพิ่มมูลค่า Conversion ให้ได้สูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการเสนอราคาสำหรับ Conversion ที่ขับเคลื่อนวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ
- การเสนอราคาตามมูลค่าเป็นกลยุทธ์ Smart Bidding ที่ใช้แมชชีนเลิร์นนิงในการเพิ่มส่วนแบ่งการแสดงผลเป้าหมายให้ได้สูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการเสนอราคาสำหรับ Conversion ที่ขับเคลื่อนวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ
- การเสนอราคาตามมูลค่าเป็นกลยุทธ์ Smart Bidding ที่ใช้แมชชีนเลิร์นนิงในการเพิ่มการแสดงผลให้ได้สูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการเสนอราคาสำหรับ Conversion ที่ขับเคลื่อนวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ
- การเสนอราคาตามมูลค่าเป็นกลยุทธ์ Smart Bidding ที่ใช้แมชชีนเลิร์นนิงในการเพิ่มอัตราการคลิกผ่านให้ได้สูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการเสนอราคาสำหรับ Conversion ที่ขับเคลื่อนวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ
เมื่อพูดถึงแคมเปญ Google Ads ที่ประสบความสำเร็จ การเสนอราคาอัตโนมัติดีกว่าการเสนอราคาด้วยตนเองอย่างไรบ้าง
- หากไม่เสนอราคาอย่างมีประสิทธิภาพ คุณอาจเสีย Conversion ที่มีค่าไป
- เส้นทางของลูกค้ามีความซับซ้อนยิ่งขึ้น คุณจึงควรกำหนดราคาเสนอตามพฤติกรรมของผู้ใช้ทั่วไป
- ราคาเสนอที่เหมาะสมมักจะเป็นการกำหนดเป้าหมายแบบคงที่ ซึ่งทำให้บรรลุเป้าหมายได้ยาก
- ความตั้งใจและแนวโน้มที่ผู้ใช้จะดำเนินการอย่างมีคุณค่าต่อธุรกิจให้เสร็จสิ้นนั้นไม่ได้แตกต่างกันไปตามสถานที่ตั้ง เวลา หรืออุปกรณ์
โฆษณาทุกชิ้นมี URL แสดงที่อยู่เว็บไซต์ของคุณ คุณเพิ่มช่องเส้นทาง (ไม่บังคับ) 2 ช่องลงใน URL ที่แสดงในโฆษณาแบบข้อความได้ ประโยชน์ของการใช้ช่องเส้นทางที่ไม่บังคับเหล่านี้คืออะไร
- ช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่าจะเห็นเนื้อหาแบบใดเมื่อคลิกโฆษณาของคุณ
- ช่วยให้ระบบ Google Ads คาดการณ์เนื้อหาที่จะแสดงในหน้า Landing Page ได้
- ช่วยให้ผู้ใช้มีตัวเลือกมากขึ้นว่าต้องการไปที่หน้า Landing Page ใด
- ช่วยจับคู่หน้า Landing Page ที่เหมาะสมกับข้อความค้นหาที่เรียกให้โฆษณาแสดง
บรรพตกำลังจัดการแคมเปญที่มีการลงทุนทั้งหมด $7,000 ซึ่งสร้าง Conversion ได้ 1,400 รายการ และมี CPA (ต้นทุนต่อการกระทำหนึ่งครั้ง) อยู่ที่ $5 บรรพตจำเป็นต้องขายสินค้าคงคลังส่วนเกิน เขาจึงต้องการเพิ่ม CPA และการลงทุนในแคมเปญเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ แผนที่สร้างขึ้นในเครื่องมือวางแผนประสิทธิภาพข้อใดจะช่วยให้บรรพตบรรลุเป้าหมายทางการตลาดในการขายสินค้าคงคลังส่วนเกินได้
- การลงทุนมูลค่า $9,800 เพื่อสร้าง Conversion 1,400 รายการ โดยมี CPA อยู่ที่ $7
- การลงทุนมูลค่า $9,100 เพื่อสร้าง Conversion 1,300 รายการ โดยมี CPA อยู่ที่ $7
- การลงทุนมูลค่า $9,600 เพื่อสร้าง Conversion 1,600 รายการ โดยมี CPA อยู่ที่ $6
- การลงทุนมูลค่า $8,400 เพื่อสร้าง Conversion 1,400 รายการ โดยมี CPA อยู่ที่ $6
ประโยชน์ของการใช้ Smart Bidding กับการทำงานแบบกว้างคืออะไร
- การทำงานแบบกว้างกับ Smart Bidding จะช่วยทำให้แน่ใจว่าคุณแข่งขันในการประมูลที่เหมาะสมโดยเสนอราคาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งทำได้โดยการใช้สัญญาณบริบทที่เกิดขึ้นในเวลาของการประมูล
- การทำงานแบบกว้างกับ Smart Bidding จะใช้ชื่อกลุ่มโฆษณาในการกำหนดการประมูลที่จะแข่งขัน เพื่อที่คุณจะได้แข่งขันในการประมูลที่เหมาะสมโดยเสนอราคาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ที่เหมาะสมเท่านั้น
- การทำงานแบบกว้างกับ Smart Bidding จะใช้งบประมาณในการกำหนดการประมูลที่จะแข่งขัน เพื่อที่คุณจะได้แข่งขันในการประมูลที่เหมาะสมโดยเสนอราคาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ที่เหมาะสมเท่านั้น
- การทำงานแบบกว้างกับ Smart Bidding จะใช้หน้า Landing Page ในการกำหนดการประมูลที่จะแข่งขัน เพื่อที่คุณจะได้แข่งขันในการประมูลที่เหมาะสมโดยเสนอราคาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ที่เหมาะสมเท่านั้น
บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าแห่งหนึ่งกำลังจะเปิดตัวทีวีรุ่นใหม่ที่มีฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษที่รองรับคำสั่งเสียง บริษัทตัดสินใจใช้การทำงานแบบวลีในแคมเปญโฆษณา Search ซึ่งมีคีย์เวิร์ดเป็น “ทีวี” “การช่วยเหลือพิเศษ” และ “เสียง” แคมเปญโฆษณา Search ของบริษัทจะได้รับประโยชน์อย่างไรจากการทำงานแบบวลี
- โฆษณาของบริษัทจะปรากฏหากข้อความค้นหามีคีย์เวิร์ดที่ตรงกันทั้ง 3 คำนั้นอยู่
- โฆษณาของบริษัทจะปรากฏหากข้อความค้นหามีความหมายครอบคลุมคีย์เวิร์ด
- โฆษณาของบริษัทจะปรากฏหากข้อความค้นหาเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด
- โฆษณาของบริษัทจะปรากฏหากข้อความค้นหามีความหมายเดียวกันกับคีย์เวิร์ด
คุณอยากลองใช้คู่บรรทัดแรกกับคำอธิบายได้หลายๆ รายการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผลลัพธ์ แผนกการตลาดจึงแนะนำให้คุณใช้โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท ประโยชน์ 2 ข้อที่คุณอาจได้รับจากการใช้โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทมีอะไรบ้าง
- ลด eCTR
- เพิ่มความยืดหยุ่น
- Funnel ที่ยาวขึ้น
- เพิ่มความเกี่ยวข้อง
- ลดการคลิกหลอกลวง
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดต้องการใช้แคมเปญโฆษณา Google Search เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าที่กำลังค้นหาอุปกรณ์ตั้งแคมป์ทางออนไลน์พิจารณาแบรนด์ของตน ข้อใดคือประโยชน์หลักของแคมเปญโฆษณา Google Search ที่มีการจัดการอย่างดี
- โฆษณา Search สามารถแสดงวิดีโอของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องได้
- โฆษณา Search สามารถปรากฏในผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องของผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้
- โฆษณา Search สามารถปรากฏในผลการค้นหาทั่วไปได้
- โฆษณา Search สามารถส่งข้อมูลติดตามผลไปยังผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้โดยอัตโนมัติได้
คุณจะดูสถานะการเสนอราคา แนวโน้มด้านประสิทธิภาพในช่วงเวลาต่างๆ และการรายงานระยะเวลาก่อนที่จะเกิด Conversion ได้จากที่ไหน
- รายงานกลยุทธ์การเสนอราคา
- เครื่องมือวางแผนกลยุทธ์ด้านประสิทธิภาพ
- การวิเคราะห์การประมูล
- รายงานคีย์เวิร์ดการเสนอราคา
ลูกค้าของคุณเป็นเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตอุปกรณ์สำหรับเดินป่าและปีนเขาโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดเล็กในตลาด แต่ลูกค้าของคุณก็พร้อมจะปรับขนาดธุรกิจ แคมเปญ Google Ads 2 ประเภทใดที่ลูกค้าของคุณสามารถใช้เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ที่เห็นแบรนด์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจการเดินป่าและปีนเขาในเว็บไซต์
- Performance Max
- Discovery
- Search
- วิดีโอ
มะลิเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของเครือร้านเสื้อผ้า เธอได้รับงบประมาณมาจำนวนหนึ่งเพื่อผลักดันให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ของเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอควรใช้กลยุทธ์การเสนอราคาอัตโนมัติใดในแคมเปญ
- เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด
- ส่วนแบ่งการแสดงผลเป้าหมาย
- ผลตอบแทนเป้าหมายจากค่าโฆษณา (tROAS)
- เพิ่มจำนวนคลิกสูงสุด
คุณมีโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทใน Google Ads ได้กี่รายการ
- มีการจำกัดจำนวนโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทและเปิดใช้แล้ว 3 รายการต่อกลุ่มโฆษณา หากมีข้อความที่ควรปรากฏในโฆษณาทุกรายการ คุณจะต้องเพิ่มข้อความนั้นในตำแหน่งบรรทัดแรก 1, ตำแหน่งบรรทัดแรก 2 หรือตำแหน่งคำอธิบาย 1
- มีการจำกัดจำนวนโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทและเปิดใช้แล้ว 5 รายการต่อกลุ่มโฆษณา หากมีข้อความที่ควรปรากฏในโฆษณาทุกรายการ คุณจะต้องเพิ่มข้อความนั้นในตำแหน่งบรรทัดแรก 1, ตำแหน่งบรรทัดแรก 2 และตำแหน่งคำอธิบาย 1
- มีจำนวนโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทและเปิดใช้แล้วได้ไม่จำกัดต่อกลุ่มโฆษณา หากมีข้อความที่ควรปรากฏในโฆษณาทุกรายการ คุณจะต้องเพิ่มข้อความนั้นในตำแหน่งบรรทัดแรก 1, ตำแหน่งบรรทัดแรก 2 หรือตำแหน่งคำอธิบาย 1
- มีการจำกัดจำนวนโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทและเปิดใช้แล้ว 6 รายการต่อกลุ่มโฆษณา หากมีข้อความที่ควรปรากฏในโฆษณาทุกรายการ คุณจะต้องเพิ่มข้อความนั้นในตำแหน่งบรรทัดแรก 1, ตำแหน่งบรรทัดแรก 2 หรือตำแหน่งคำอธิบาย 1
บริษัทด้านการตลาดของคุณสร้างโฆษณาที่น่าสนใจและได้รับยอดคลิกจำนวนมากซึ่งเกี่ยวข้องกับการแสดงผล โฆษณานี้น่าจะส่งผลต่อการประมูล Google Ads อย่างไร
- ต้นทุนต่อคลิกที่ผู้ลงโฆษณาต้องจ่ายสำหรับโฆษณานี้อาจสูงขึ้น
- ยิ่งอัตราการคลิกผ่านที่คาดว่าจะได้รับอยู่ในระดับสูง ลำดับโฆษณาก็ยิ่งสูงขึ้น
- คุณภาพของโฆษณาอาจลดต้นทุนต่อคลิกได้อย่างน้อย 40%
- ผู้ลงโฆษณาอาจได้รับการเสนอราคาเพิ่มขึ้นในการประมูล
โซลูชัน 3 รายการในข้อใดที่จะทำให้คุณสร้างรากฐานการวัด Conversion ที่มีประสิทธิภาพเมื่อใช้การเสนอราคาตามมูลค่า
- การทำงานแบบกว้าง
- โหมดความยินยอม
- Conversion ที่ปรับปรุงแล้ว
- การติดแท็กทั่วเว็บไซต์
- Smart Bidding
หากเป้าหมายของแคมเปญคือระดับการเข้าถึง ผู้ลงโฆษณาควรเลือกกลยุทธ์การเสนอราคาประเภทใด
- ต้นทุนต่อคลิกที่ปรับปรุงแล้ว (ECPC)
- ส่วนแบ่งการแสดงผลเป้าหมาย
- เพิ่มจำนวน Conversion สูงสุด
- เพิ่มจำนวนคลิกสูงสุด
Google Ads ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ ด้วยหลักการสำคัญ 3 ประการ หลักการเหล่านี้มีอะไรบ้าง
- ความเกี่ยวข้อง การควบคุม และผลลัพธ์
- ยอดขาย การพิจารณา และความน่าเชื่อถือ
- ความเติบโต การเข้าถึง และการเข้าชม
- อิทธิพล การรับรู้ และการโปรโมต
หลังจากใช้ Smart Bidding กับการทำงานแบบกว้างแล้ว แนวทางปฏิบัติแนะนำเกี่ยวกับแคมเปญ 3 ข้อที่คุณควรทำตามมีอะไรบ้าง
- ใช้โฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท
- คำนึงถึงการกำหนดเป้าหมายจากคีย์เวิร์ดเชิงลบ
- ใช้การรายงานจากหลายอุปกรณ์
- ใช้สัญญาณบริบท
- ตรวจสอบคะแนนคุณภาพ
คุณเป็นผู้บริหารฝ่ายการตลาดของบริษัทสายการบินแห่งหนึ่ง และได้รับมอบหมายให้วางแผนงบประมาณการโฆษณาออนไลน์ของบริษัทเป็นประจำทุกเดือน คุณตัดสินใจว่าจะใช้เครื่องมือวางแผนประสิทธิภาพของ Google Ads เพื่อช่วยให้งานนี้สำเร็จ ประโยชน์ 2 ข้อที่คุณจะได้รับจากเครื่องมือวางแผนประสิทธิภาพมีอะไรบ้าง
- เครื่องมือวางแผนประสิทธิภาพจะช่วยระบุเงินทุนจากงบประมาณการดำเนินการส่วนอื่นๆ ที่จะจัดสรรมายังการทำการตลาดได้
- เครื่องมือวางแผนประสิทธิภาพจะผสานรวมกับซอฟต์แวร์การจัดทำงบประมาณอื่นๆ เช่น QuickBooks
- การคาดการณ์ของเครื่องมือวางแผนประสิทธิภาพนั้นขับเคลื่อนด้วยการค้นหาหลายพันล้านครั้งบน Google ที่เก็บรวบรวมทุกสัปดาห์
- เครื่องมือวางแผนประสิทธิภาพจะใช้ประโยชน์จากแมชชีนเลิร์นนิงเพื่อทำการคาดการณ์
คุณเพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ชื่อ Wonder Boots คุณต้องการดึงดูดการเข้าชมผ่าน Google Ads ให้มากขึ้น แต่ต้องการเฉพาะการเข้าชมจากการค้นหาที่ระบุชื่อผลิตภัณฑ์ Wonder Boots เพียงผลิตภัณฑ์เดียวเท่านั้น คุณจะดึงดูดการเข้าชมจากการค้นหาชื่อผลิตภัณฑ์ Wonder Boots เพียงอย่างเดียวได้อย่างไร
- การใช้การทำงานแบบกว้าง
- การใช้การกำหนดเป้าหมายจากคีย์เวิร์ด
- การใช้การทำงานแบบวลี
- การใช้การทำงานแบบตรงทั้งหมด
ธีระอยากปรับปรุงแคมเปญโฆษณา Google Search เขาสังเกตเห็นในหน้าคำแนะนำของ Google Ads ว่าแคมเปญใน Google Search ของตนมีคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพ 75% ตัวเลขนี้หมายความว่าอย่างไร
- แคมเปญจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้ถึง 25% หากทำตามคำแนะนำที่ระบุ
- แคมเปญนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่าแคมเปญ Search ทั้งหมดถึง 75%
- ธีระต้องปรับปรุงแคมเปญนี้ให้ดีขึ้นอีก 75% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เต็มที่
- การดำเนินแคมเปญนี้ใช้งบประมาณน้อยกว่าที่กำหนด 25%
หลังจากสังเกตเห็นว่าประสิทธิภาพของแคมเปญถดถอยลง คนางค์จึงประเมินคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา Google Search คะแนนดังกล่าวน้อยกว่าของเมื่อเดือนที่แล้วเป็นอย่างมาก เธอจึงยอมรับคำแนะนำในการเพิ่มประสิทธิภาพที่มีในรายการ หลังจากนี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับคะแนนการเพิ่มประสิทธิภาพในแคมเปญของเธอ
- คะแนนจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในสัปดาห์นี้
- คะแนนจะดีขึ้นภายในสิ้นเดือนนี้
- คะแนนจะดีขึ้นภายในวันนี้
- คะแนนจะดีขึ้นหลังการยอมรับ
คุณต้องการเพิ่มความเกี่ยวข้องของโฆษณาโดยใช้คีย์เวิร์ดชุดหนึ่ง โดยมีเป้าหมายคือการเพิ่มลำดับโฆษณา เพื่อให้โฆษณามีจำนวนผู้ที่เห็นมากขึ้น การดำเนินการใดช่วยเพิ่มความเกี่ยวข้องของโฆษณาได้
- ปรับปรุงการนำทางไปยังหน้า Landing Page
- มุ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น
- ไฮไลต์จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- เพิ่มคีย์เวิร์ดเชิงลบให้มากขึ้น
เจตน์สร้างโฆษณา Google Search โดยเสนอราคา $5 ในขณะที่ผู้ลงโฆษณาอีก 2 รายในการประมูลเสนอราคา $2.50 และ $2 เจตน์จะต้องจ่ายเท่าใดเมื่อชนะการประมูลนี้
- 2.5
- 2.51
- 5
- 4.5
คุณกำลังอธิบายพื้นฐานของโฆษณา Google Search ให้ลูกค้าใหม่ทราบ คุณจะไฮไลต์กลุ่มหัวข้อใดต่อไปนี้ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐาน 3 อย่างของโฆษณา Google Search
- กลยุทธ์การเสนอราคา ครีเอทีฟโฆษณา และ AI
- คำค้นหา เป้าหมายทางการตลาด และโฆษณา Search
- การกำหนดเป้าหมาย รูปแบบโฆษณา และกลยุทธ์การเสนอราคา
- คำค้นหา รูปแบบโฆษณา และคีย์เวิร์ด
นักการตลาดควรใช้โฆษณา Search ที่ทำงานด้วยระบบ AI เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจอย่างไร
- ใช้การทำงานแบบกว้าง, Smart Bidding และโฆษณา Search ที่ปรับเปลี่ยนตามบริบทร่วมกัน
- ลดและนำงบประมาณการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่ายไปลงทุนใหม่กับชิ้นงานรูปภาพคุณภาพสูง
- ใช้คีย์เวิร์ดที่ทำงานแบบตรงทั้งหมดเพื่อช่วย Search ที่ทำงานด้วยระบบ AI เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
- ใช้การเสนอราคาด้วยตนเองสำหรับคำค้นหาที่นักการตลาดคาดการณ์ว่าจะให้มูลค่าสูงสุด
วิธีการใดที่คุณควรใช้เพื่อทดสอบและนำการทำงานแบบกว้างไปใช้กับแคมเปญการทำงานแบบกว้างได้อย่างประสบความสำเร็จ เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูล Conversion
- คุณใช้ฟีเจอร์เครื่องมือวัด Conversion ใน Google Ads เพื่อติดตามจำนวน Conversion ที่คีย์เวิร์ดที่ทำงานแบบกว้างสร้างขึ้นได้
- คุณใช้ฟีเจอร์ประเภทการทำงานของคีย์เวิร์ดใน Google Ads เพื่อดูว่ามีการจับคู่คีย์เวิร์ดที่ทำงานแบบกว้างอย่างไรบ้าง
- คุณใช้เครื่องมือวางแผนคีย์เวิร์ดเพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและกลุ่มเป้าหมายของคุณได้
- คุณนำคีย์เวิร์ดที่ทำงานแบบกว้างไปใช้ได้โดยการตั้งค่าการใช้การทดสอบแบบคลิกเดียว วิธีนี้จะสร้างการทดสอบโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำตามแนวทางปฏิบัติแนะนำทั้งหมดในการทดสอบ
More certification answers: https://en.certificationanswers.com/exams-answers-thai/